ปัญหาพิราบรบกวนในโรงงานอุตสาหกรรม โรงแรมขนาดใหญ่ หรือ โรงสีข้าว เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่สร้างความเสียหายและเป็นพาหะของเชื้อโรค แต่วันนี้มีผู้หาวิธีไล่นกพิราบที่เข้ามาก่อกวนด้วยวิถีธรรมชาติ โดยการฝึกเหยี่ยวซึ่งเป็นนกนักล่าเข้าไปกำจัด ฝูงพิราบหลายสิบตัวที่บินมาจับจองพื้นที่โดยรอบของโรงงานอุตสาหกรรม ทั้งภายนอกและภายใน จึงทำให้เป็นสิ่งที่สร้างความเสียหายและเสียภาพลักษณ์ต่อทัศนียภาพโดยรวมให้กับโรงงานต่าง ๆ ได้ ทั้งภายในและภายนอกโรงงาน ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นภายในอาคาร คือจะส่งผลกระทบกับชิ้นงานและตัวสินค้าที่อยู่ภายในโรงงานได้ นี่จึงเป็นที่มาของธุรกิจกำจัดพิราบก่อกวนด้วยวิถีธรรมชาติ โดยกลุ่มคนรักนกนักล่าจำพวกเหยี่ยวและอินทรีย์ ทั้งนี้ทางคุณโอประธานชมรม Thaihawk Master ผู้คร่ำหวอดในวงการฝึกนกนักล่ามาหลายสิบปี บอกว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะบังคับให้นกประเภทนี้ทำตามคำสั่ง ต้องอาศัยเวลาและความอดทนนำมาฝึกฝนให้เคยชิน และต้องมีการฝึกฝนทั้งคนและนกเหยี่ยวให้เกิดความชำนาญ และเหยี่ยวถือเป็นนกนักล่าที่นิยมฝึกเพื่อไล่พิราบรบกวนมากที่สุด ด้วยประสาทสัมผัสอันยอดเยี่ยมของนักล่าเจ้าเวหาอย่างนกเหยี่ยวผ่านการฝึกฝนโดยมนุษย์ ไล่พิราบก่อกวนโดยไม่ฆ่า ไม่ใช้สารเคมีซึ่งได้ผลเป็นอย่างดี และเป็นอีกหนึ่งวิธีในการป้องกันการแพร่เชื้อโรคที่มากับนกพิราบได้ จึงได้เล็งเห็นความสำคัญของธุรกิจนี้ จึงได้จัดตั้ง บริษัท ไทยฮอคมาสเตอร์จำกัด ขึ้นมา เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าวที่กล่าวมาข้างต้น ทั้งนี้ด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปี ของการฝึกเหยี่ยว และได้เข้าให้บริการไล่นกรบกวนมาแล้ว 6 ปี จนได้รับการยอมรับความไว้วางใจจากลูกค้าอย่างกว้างขวาง ทั่วประเทศ
กว่า 2,000 ปีแล้วที่มนุษย์เราเลี้ยง เหยี่ยวเพื่อเป็นทั้งสัตว์เลี้ยงและไว้ใช้งาน
จนถึงปัจจุบันก็ยังคงมีการเลี้ยงเหยี่ยวอยู่
แต่ส่วนใหญ่เป็นการเลี้ยงเพื่อความเพลิดเพลิน จะมีอยู่บ้างที่ฝึกให้ เหยี่ยว ออกล่าสัตว์เพื่อนำมาประกอบอาหาร ซึ่งเท่าที่รู้ก็มีอยู่ในประเทศคาซัคสถาน ในบ้านเราจะเน้นเป็นสัตว์เลี้ยงสวยงาม เพราะบุคลิกและรูปร่างของเหยี่ยวนั้นดูสง่างามอย่างไรก็ตามการเลี้ยงก็จำกัดอยู่ในกลุ่มคนจำนวนไม่มากนักด้วยสาเหตุนอกจากเรื่องราคาที่ค่อนข้างสูงแล้ว เรายังไม่สามารถเลี้ยงเหยี่ยวสายพันธุ์ในประเทศไทยได้ เนื่องจากเป็นสัตว์สงวนที่ต้องอนุรักษ์ไว้ เพราะหายาก และหากเป็นเหยี่ยวจากต่างประเทศก็ต้องขออนุญาตนำเข้าก่อนจึงจะเลี้ยงได้
“เหยี่ยวทั้งหมดของเรานำเข้าจากต่างประเทศการนำเข้าก็ไม่ยุ่งยากมากนัก เหมือนหมาแมวทั่วไป เพียงแต่เหยี่ยวที่เราะจะนำเข้ามาต้องเป็นนกที่เพาะพันธุ์จากฟาร์มที่มีใบการันตีแล้วนำมาแจ้งขออนุญาตกับกองคุ้นครองพันธุ์สัตว์ป่าและพืชป่าตามอนุสัญญา(อนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์-CITES หรือที่เรียกว่า ‘อนุสัญญาไชเตส’)พันธุ์ที่เราเลี้ยงคือ Hawks และ Falcons ซึ่งต้องใช้เวลาฝึกถึง 5 เดือนจึงจะนำออกมาปฎิบัติงานได้”
กับ คุณโอ-สิริชัย วัฒนวรรณ ผู้ก่อตั้งชมรม Thai Hawk Master สิ่งที่สัมผัสได้จากการพูดคุยในครั้งนี้ทำให้ผมเชื่อว่าหากเราทำในสิ่งที่รักมักประสบความสำเร็จและมีความสุขไม่ว่าจะผ่านอุปสรรคอะไรมาบ้าง โดยเฉพาะกับคุณโอ การเลี้ยงเหยี่ยวเกิดจากความรักและผูกพันมาแต่วัยเยาว์
“ผมชอบเลี้ยงเหยี่ยวมาตั้งแต่เด็กๆ โตขึ้นมาหน่อยก็ไปเรียนที่ ไต้หวัน มีโอกาสได้เรียนการฝึกเหยี่ยว พอกลับมาเมืองไทยตอนนี้นยังไม่มีบุคคลากรด้านนี้เลยจึงเปิดชมรม Thai Hawk Master เพื่อเอาไว้แลกเปลี่ยนความรู้กัน ทั้งยังเป็นศูนย์ฝึกและ เพราะพันธุ์เหยี่ยว ให้สมาชิกในกลุ่ม โดยส่วนตัวผมรู้อยู่แล้วว่าจะต้องทำอาชีพเกี่ยวกับนกเหยี่ยว เพราะว่าเหยี่ยวนี่สามารถไล่นกพิราบได้ ตอนนั้นในเมืองไทยยังไม่มีบริการด้านนี้ ก็เลยเปิดบริษัทขึ้นมา ถึงวันนี้ก็ก้าวสู่ปี่ที่ 6 แล้ว”
ปัจจุบันคุณโอเปิดบริษัทที่ให้บริการด้านการไล่นกที่เข้ามาก่อกวนในโรงงาน โรงสีข้าว สนามบิน ฯลฯ ด้วยบุคลากรที่ผ่านการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี ฟังดูเหมือนเป็นงานง่ายๆ ที่ใครๆ ก็ทำได้แต่จริงๆ แล้วงานนี้ยากมากนะครับ ก่อนอื่นต้องมีใจรักเหยี่ยวก่อน และต้องอดทนกับการฝึก เพราะใช้เวลานานพอสมควร ถ้าไม่รักจริงอาจถอดใจและทอดทิ้งนกเหยี่ยวไปก่อนซึ่งอาจทำให้นกบาดเจ็บได้ ดังนั้นหากไม่มีเวลาก็อย่าคิดหามาเลี้ยงกันเลย แค่ชื่นชมในสิ่งที่คนอื่นทำอยู่ห่างๆ และเป็นกำลังใจให้กัน เท่านี้น่าจะดีกว่าครับ
“รูปแบบการบริการก็คือผมจะเข้าทำงานในพื้นที่ทุกวัน วันละสองรอบ ช่วงเช้าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมงเพื่อป้องกันนกพิราบที่จะเข้ามาหากินในโรงงาน รอบเย็นใช้เวลา 3 ชั่วโมงเพื่อป้องกันไม่ให้นกพิราบกลับเข้ามานอน ยกเว้นวันเสาร์และวันอาทิตย์ ซึ่งเหยี่อที่โดนจับได้นั้นจะปลอดภัยเพราะเราจะแต่งกรงเล็บของเหยี่ยวที่เลี้ยงให้ทู่เพื่อเน้นไล่อย่างเดียวไม่เน้นทำลาย แนวคิดของผมจะเป็นการฝึกนกเพื่อไล่นกมากกว่า”